![translation](https://cdn.durumis.com/common/trans.png)
นี่คือโพสต์ที่แปลด้วย AI
ภาษาธรรมชาติ (Natural Language) คืออะไร?
- ภาษาที่เขียน: ภาษาเกาหลี
- •
-
ประเทศอ้างอิง: ทุกประเทศ
- •
- เทคโนโลยีสารสนเทศ
เลือกภาษา
สรุปโดย AI ของ durumis
- ภาษาธรรมชาติคือภาษาที่มนุษย์ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ภาษาเกาหลี ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน เป็นต้น ซึ่งพัฒนาขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติ ตลอดหลายพันปี
- ภาษาธรรมชาติมีลักษณะเฉพาะที่ซับซ้อน คลุมเครือ และยืดหยุ่น และเทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) ซึ่งช่วยให้คอมพิวเตอร์ สามารถทำความเข้าใจและประมวลผลภาษาธรรมชาติได้ ถูกนำไปใช้ในหลายสาขา เช่น การแปลภาษา การรับรู้เสียง แชทบอท การวิเคราะห์อารมณ์ เป็นต้น
- ภาษาประดิษฐ์ซึ่งต่างจากภาษาธรรมชาติคือภาษาที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ และภาษาเครื่องคือรหัสเลขฐานสองที่คอมพิวเตอร์ สามารถทำความเข้าใจและดำเนินการได้โดยตรง
ภาษาธรรมชาติ (Natural Language) คืออะไร?
ภาษาธรรมชาติ (Natural Language) หมายถึง ภาษาที่ผู้คนใช้ในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ภาษาที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ภาษาเกาหลี ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาสเปน ล้วนเป็นภาษาธรรมชาติ ภาษาธรรมชาติแตกต่างจากภาษาที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์ โดยภาษาธรรมชาติได้พัฒนาและเปลี่ยนแปลงมาอย่างต่อเนื่องนับพันปี บทความนี้จะพูดถึงนิยาม ลักษณะ และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP: Natural Language Processing)
ภาษาธรรมชาติ
นิยามของภาษาธรรมชาติ
ภาษาธรรมชาติคือภาษาที่มนุษย์ใช้เพื่อการสื่อสาร ซึ่งเป็นไปตามกฎและไวยากรณ์เฉพาะ และทำให้มนุษย์สามารถสื่อสารกันได้ ภาษาธรรมชาติ สามารถแบ่งออกเป็นภาษาพูด (ภาษาพูด) และภาษาเขียน (ภาษาที่เขียน)
ลักษณะของภาษาธรรมชาติ
ความซับซ้อน: ภาษาธรรมชาติมีความซับซ้อนและมีหลายระดับ คำเดียวกันอาจมีความหมายแตกต่างกันไปตามบริบท และโครงสร้างประโยคก็มีความ หลากหลายมาก
ความคลุมเครือ: ภาษาธรรมชาติมักจะมีความคลุมเครือ ซึ่งหมายความว่าประโยคหรือคำเดียวกันอาจมีการตีความหลายอย่าง ตัวอย่างเช่น ประโยค "ไปธนาคาร" อาจหมายถึง "ไปถอนเงิน" หรือ "ไปที่ริมแม่น้ำ"
ความยืดหยุ่น: ภาษาธรรมชาติมีความยืดหยุ่นในการเพิ่มคำหรือวลีใหม่ๆ และเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ตามการพัฒนาของเทคโนโลยีหรือการเปลี่ยนแปลง ทางสังคม จะมีคำศัพท์และสแลงใหม่ๆ เกิดขึ้น
การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP: Natural Language Processing)
การประมวลผลภาษาธรรมชาติคือสาขาเทคโนโลยีที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจและประมวลผลภาษาธรรมชาติของมนุษย์ได้ ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่รวมงานต่างๆ เช่น การทำความเข้าใจภาษา การสร้างภาษา การแปลภาษา เป็นต้น สาขาการประยุกต์ใช้ NLP ที่สำคัญมีดังนี้
การแปลภาษา: บริการแปลภาษา เช่น Google Translate และ Papago ใช้เทคโนโลยี NLP ในการให้บริการแปลภาษาหลายภาษา
การจดจำเสียงพูด: ระบบจดจำเสียงพูด เช่น Siri ของ Apple และ Alexa ของ Amazon ใช้ NLP ในการทำความเข้าใจเสียงพูดของผู้ใช้และให้คำตอบที่ เหมาะสม
แชทบอท: แชทบอทที่ใช้สำหรับบริการลูกค้าหรือให้ข้อมูลใช้ NLP ในการทำความเข้าใจคำถามของผู้ใช้และตอบคำถามได้
การวิเคราะห์ความรู้สึก: เทคโนโลยีที่วิเคราะห์ข้อความในโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์รีวิวเพื่อวิเคราะห์ความรู้สึก ซึ่งช่วยให้สามารถวิเคราะห์ความคิดเห็นของผู้บริโภค หรือแนวโน้มได้
สรุป
ภาษาธรรมชาติคือภาษาที่มนุษย์ใช้เพื่อการสื่อสาร ภาษาธรรมชาติมีความซับซ้อนและยืดหยุ่น เทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ ช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจและประมวลผลภาษาธรรมชาติได้ ซึ่งนำไปใช้ในสาขาการประยุกต์ใช้ต่างๆ การพัฒนาเทคโนโลยี NLP ในอนาคตจะทำให้การสื่อสารระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เข้าใจภาษาธรรมชาติและการประมวลผลภาษาธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น ความซับซ้อนและความน่าสนใจของภาษาธรรมชาติ เป็นสาขาที่น่าสนใจซึ่งต้องการการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ภาษาประดิษฐ์ (Constructed Language) และภาษาเครื่อง (Machine Language) คืออะไร?
ต่างจากภาษาธรรมชาติ ภาษาประดิษฐ์ (Constructed Language) และภาษาเครื่อง (Machine Language) คือภาษาที่สร้างขึ้น โดยมนุษย์เพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ
ภาษาประดิษฐ์ (Constructed Language)
ภาษาประดิษฐ์คือภาษาที่สร้างขึ้นโดยเจตนาเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ ซึ่งแตกต่างจากภาษาธรรมชาติโดยภาษาประดิษฐ์ถูกออกแบบและ สร้างขึ้นโดยมนุษย์ ภาษาประดิษฐ์มีหลายประเภทขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์
ภาษาเครื่อง (Machine Language)
ภาษาเครื่องคือภาษาที่คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจและดำเนินการได้โดยตรง ซึ่งแตกต่างจากภาษาที่มนุษย์เข้าใจ ภาษาเครื่องประกอบด้วย รหัสที่ประกอบด้วยเลขฐานสอง (0 และ 1) ภาษาเครื่องเป็นภาษาพื้นฐานและใช้ในการควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์